ออม กิตติคุณ
การรับประรับประทานอาหารไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลใดก็ตามรับประรับประทานอาหารที่ให้พลังงานมากนั่น คือ อาหารไขมัน ในทางตรงกันข้ามหน้าร้อนเราไม่ต้องการพลังงานเพื่อสร้างความร้อนมาก เราจึงต้องได้รับครบทั้ง 5 หมู่ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ผลไม้ / ผักสด น้ำ และเกลือแร่ หากมีความแตกต่างในปริมาณของแต่ละหมู่ตามสภาพของอากาศ เช่น อากาศเย็น หรือ หน้าหนาวเราต้องการพลังงานมาก เราจึงต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน และจากการเสียเหงื่อเพื่อระบายความร้อน เราจึงต้องทดแทนด้วยน้ำและเกลือแร่ อาหารที่เรารับประรับประทานกันมากในหน้าร้อน จึงมักเป็นแกงส้ม ต้มยำ ต้มโคล้ง หรือยำประเภทต่างๆ ขนมหวานมักเป็นผลไม้ลอยแก้วที่ไม่มีกะทิ
โรคที่มากับหน้าร้อน
ส่วนใหญ่จะเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เพราะว่าอุณหภูมิในหน้าร้อนเป็นอุณหภูมิที่เชื้อโรคชอบเป็นพิเศษ และเจริญเติบโตได้รวดเร็ว อาหารที่ปรุงเสร็จแล้วถ้าไม่เก็บให้ถูกต้องจะเสียเร็ว โดยเฉพาะอาหารที่ใช้กะทิเป็นส่วนประกอบ ไม่ใช่แต่อาหารที่ปรุงเสร็จแล้วอย่างเดียว อาหารสดก็เช่นกันจะเสียเร็วกว่าปกติ เพราะอาหารสดส่วนใหญ่จะต้องเก็บในอุณหภมิที่ต่ำ นอกจากอาหารแล้วหน้าร้อนนี้เครื่องดื่มก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะน้ำแข็ง ยิ่งร้อนมากเท่าไรยิ่งอยากรับประทานน้ำแข็งมากขึ้นเท่านั้น น้ำที่นำมาทำน้ำแข็ง หรือภาชนะที่บรรจุอาจไม่สะอาด อาการอีกอย่างที่ชอบเกิดในหน้าร้อนก็คือ อาการเบื่ออาหาร เวลาอากาศร้อนมากๆ จะทำให้คนเราเบื่ออาหาร รับประทานไม่ลง รับประทานไม่เป็นเวลา รับประทานอาหารผิดประเภท
วิธีแก้ไข
– ทำน้ำแข็งเองจากน้ำต้ม หรือน้ำกรอง
– ไม่ควรเก็บกับข้าวไว้นอกตู้เย็น
– อาหารสดต้องเก็บในตู้เย็น และควรล้างให้สะอาดก่อนเก็บในตู้เย็น เพราะความเย็นไม่ได้ ฆ่าเชื้อ เพียงแต่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคเท่านั้น
– พยายามรับประทานอาหารให้ตรงเวลา
– อุปกรณ์ที่ใช้ในการปอก หรือหั่นอาหารที่จะรับประทานสดๆ หรือต้มสุกแล้วจะต้องล้างให้สะอาด และเก็บในภาชนะที่สะอาดปราศจาก แมลงต่างๆ ที่เป็นพาหนะของเชื้อโรค
– ไม่ควรรับประทานเนื้อสัตว์สุกๆ ดิบๆ
– รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
– ล้างมือให้สะอาดก่อน และหลังรับประรับประทานอาหารทุกมื้อ
– น้ำมะตูม เป็นเครื่องดื่มโบราณที่นิยมดื่มรับประทานในหน้าร้อน เพราะนอกจากจะมีกลิ่นหอมชื่นใจแล้วยังมีสรรพคุณแก้กระหายตลอดจนการทำลายเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วงได้
– น้ำยาอุทัยที่เคยนิยมเหยาะใส่น้ำเย็นดื่มแล้วชื่นใจก็มีสรรพคุณเช่นเดียวกับน้ำมะตูม
อาหารที่จะช่วยให้เราห่างไกลจากโรคในหน้าร้อนนี้มีจำนวนมากมาย ได้แก่
• ข้าวแช่ จะช่วยลดความร้อนได้ เพราะในข้าวแช่มีวิตามินบีจากข้าว ยิ่งถ้าเป็นข้าวไม่ขัดสีก็จะยิ่งมีวิตามินบีเยอะ ประกอบกับเครื่องเคียง อย่างพริกสอดไส้ต่างๆ ไชโป๊ กะปิหวาน ฯลฯ ล้วนอุดมด้วยวิตามินเอ ดับร้อนดีนัก ทั้งวิตามินเอ และวิตามินบี มีประโยชน์ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบ และช่วยให้ผิวเย็นลงด้วย
• พริก แม้เผ็ดร้อนตอนรับประทาน สังเกตเวลารับประทานส้มตำ หรืออาหารเผ็ดๆ จะเหงื่อตก หน้าแดงร้อนไปหมด แต่สักพักพอรับประทานเสร็จกลับรู้สึกเย็นสบายมีความสุข นั่นเพราะหลังจากธาตุเผ็ด หรือแคปไซซิน (Capsaicin) ของพริกออกมาแล้ว มันจะกระตุ้นให้หลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ให้หลั่งออกมา เจ้าสารตัวนี้จะทำให้หัวใจเต้นช้าลง เส้นเลือดขยายขึ้น ความดันลดลง มีความสุขขึ้น
• ผลไม้ฉ่ำน้ำ แนะนำ มังคุด มะม่วงสุก และแตงโม นอกจากเปี่ยมด้วยวิตามินเอ ยังมีเส้นใย ที่ช่วยลดพวกคราบไขมันทั้งหลาย ทำให้ความร้อนข้างในบรรเทาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแตงโม มีธาตุวิตามินเอตัวหนึ่งที่เรียกว่า ไลโคปีน ธาตุตัวนี้เป็นกรดอะมิโน ที่ชื่อ “อาร์จินีน” ซึ่งทำให้หลอดเลือดขยาย เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น เมื่อใดก็ตามที่หลอดเลือดขยาย มันก็ช่วยขับความร้อนออกไป
• เครื่อมดื่ม แน่นอน น้ำเปล่าอุ่นๆ ดีที่สุด เพราะอุณหภูมิภายในร่างกาย 37 องศาเซลเซียส ดังนั้นควรดื่มน้ำที่มีอุณหภูมิใกล้เคียงกัน ทว่าท่ามกลางอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียสโดยเฉลี่ยดั่งเช่นทุกวันนี้ อนุโลมให้ดื่มน้ำเย็นได้ แต่ขอเป็นน้ำเย็นที่แช่ในตู้เย็น ห้ามใส่น้ำแข็งนะคะ ในบางอารมณ์ หลายคนคงอยากจิบดื่มอะไรที่มีรสชาติ ขอแนะนำชาเขียวอุ่นๆ ช่วยคลายร้อน และยังรู้สึกชุ่มชื่นคอชุ่มชื่นใจอีก หรือใครอยากรับประทานชาเขียวเย็น หรือกระทั่งกาแฟเย็นก็พอไหว แต่ขออย่าหวานนัก ที่สำคัญห้ามใส่วิปครีม
อาหารต้องห้ามหน้าร้อน
• กาแฟเย็นชาเขียวเย็นใส่วิปครีม เพราะเจ้าวิปครีมตัวดีตัวการทำให้ผิวอักเสบ และผิวแก่เร็วด้วย
วิปครีมคือ พวกครีมเทียมที่มีไขมันแปรสภาพอยู่ ซึ่งไขมันชนิดนี้ถือเป็นตัวร้าย ที่ทำให้เกิดการอักเสบที่หลอดเลือดหัวใจได้ ดังนั้นไม่ควรรับประทานกาแฟเย็นชาเขียวเย็นที่ใส่วิปครีม นมข้นหวานเยอะๆ ในช่วงวันร้อนตับแตก
• อาหารที่มีกำมะถันเยอะ อย่าง เนื้อแพะ เนื้อวัว หรือเนื้อแดงทั้งหลาย ฉะนั้นช่วงหลีกเลี่ยงรับประทานหมูกะทะ หมูย่าง สเต็ก ไปก่อน เพราะแม้แต่เนื้อแดงที่เป็นเนื้อไม่ติดมัน ก็ยังมีเปลวมันที่แทรกอยู่ เป็นมันละเอียดๆ ที่เรามองไม่เห็น
• ผักผลไม้ที่มีกำมะถันเยอะ หัวหอมใหญ่ กระเทียม และผลไม้ที่หวาน เช่น ทุเรียน ลำไย ขนุน ผลไม้พวกนี้จะค่อนข้างทำให้ร้อนง่าย มีกำมะถันเยอะ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะรับประทานในหน้าร้อนนี้
• ขนมหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งของหวานขนมไทยทั้งหลาย เนื่องจากใช้น้ำตาลในปริมาณมาก ขนมพวกนี้ให้พลังงานร้อนแรง ทำให้ผิวหนังเราเกิดความร้อน และอักเสบ ที่สำคัญ ทำให้ผิวเสื่อม แก่เร็วด้วยค่ะ
……………………………………………