- April 25, 2022
- somdej_admin
- Comment: 0
- อาหารและยา
นายแพทย์ชยวิญญ์ ขจิตตานนท์
วุ้นตาเสื่อมคืออะไร?
โดยปกติในลูกตาของคนเราจะประกอบไปด้วยวุ้นใสๆ บรรจุอยู่ในลูกตา
ซึ่งเป็นส่วนผสมของคอลลาเจนกับน้ำ
เมื่อเกิดความผิดปกติในโครงสร้างของน้ำวุ้นตา
จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของคอลลาเจนในน้ำวุ้นตา จึงเกิดการหดตัว และดึงรั้งของน้ำวุ้นตา เนื่องจากวุ้นตา และจอประสาทตาอยู่ติดกัน
การหลุดลอกของน้ำวุ้นตาออกจากจอประสาทตาอาจทำให้เกิดการดึงรั้งต่อจอประสาทตาได้
สาเหตุของวุ้นตาเสื่อม
1.ตามอายุ
ยิ่งอายุมากขึ้นก็เกิดการเสื่อมของน้ำวุ้นตาตามธรรมชาติ จะพบได้มากใน คนที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
แต่ในคนอายุน้อยก็พบได้เช่นกัน
แต่จะน้อยกว่าคนอายุมาก
2.ภาวะสายตาสั้นมากๆ
3.เกิดจากอุบัติเหตุที่มีการกระแทกลูกตา
4.เกิดหลังจากการผ่าตัด
การผ่าตัดเลนส์ตาที่มีโครงสร้างของถุงรับเลนส์ฉีกขาด อาจกระตุ้นให้เกิดวุ้นตาเสื่อมได้มากขึ้น แต่คนไข้บางคนที่มีวุ้นตาเสื่อมอยู่แล้ว
เมื่อผ่าตัดต้อกระจกเปลี่ยนเลนส์ตาแล้วมองเห็นได้ชัดขึ้นจะเห็นจุดดำลอยได้ ก็อาจทำให้นึกว่าเพิ่งเกิดวุ้นตาเสื่อมทั้งที่มีมาก่อนแล้ว
5.ภาวะที่ไม่มีเลนส์ตา (aphakia)
6.ภาวะที่มีอาการอักเสบภายในลูกตา
อาการของวุ้นตาเสื่อม ผู้ป่วยที่มีภาวะวุ้นตาเสื่อมมีอาการได้หลายอย่าง
1.ไม่มีอาการใดก็ได้
2.มีอาการเห็นจุดดำ
ลอยไปมาได้ ในบางคนเมื่อเพ่ง หรือมองจุดใดจุดหนึ่ง (focus) จะเห็นจุดดำคล้าย ยุง
เมฆ ควันลอยอยู่ในตาได้ บางครั้งถ้าเป็นน้อยๆ เมื่อไม่-ใส่ใจก็จะมองไม่เห็น
เมื่อวุ้นตาเสื่อมแล้วก็จะอยู่กับเราไปตลอด ซึ่งไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ ถ้าไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นมา
3.มองเห็นแสงแว่บๆ คล้ายกับมีคนฉายไฟ หรือฉายแฟลชกล้องใส่ อาการนี้แม้ปิดไฟมืดก็มองเห็นได้ เกิดจากการที่มีวุ้นตาเสื่อมหลุดลอก และเกิดการดึงรั้ง จอประสาทตาขึ้น
4.ตามัวลง
มองเห็นเหมือนมีเงามาบังไปส่วนใดส่วนหนึ่งของตา อาจเป็นอาการแสดงถึงการที่มีจอประสาทตาหลุดลอกออกมาได้ ซึ่งเป็นภาวะที่ต้องพบจักษุแพทย์โดยด่วนที่สุด
การรักษาภาวะวุ้นตาเสื่อม
1.ไม่มียาหยอดตา หรือยารับประทานที่รักษาได้
2.เนื่องจากภาวะนี้เป็นการเสื่อมของน้ำวุ้นลูกตา เปรียบเทียบได้กับผิวหนังที่เหี่ยวย่น หรือ
ผมที่หงอก
เมื่อเกิดความเสื่อมก็จะคงอยู่ไปตลอด
ไม่มีอันตรายใดๆ
ถ้าไม่มีการดึงรั้งจอประสาทตาให้ฉีกขาดซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด แต่จะมีอุบัติการณ์เกิดขึ้นมากในช่วง 3
เดือนแรกหลังจากที่เริ่มมีอาการของภาวะวุ้นตาเสื่อม ดังนั้นการรักษาจึงเป็นการตรวจจอประสาทตากับจักษุแพทย์เป็นระยะในช่วงแรก และตรวจติดตามผล ตามที่แพทย์นัดเป็นระยะๆ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดภาวะจอประสาทตาฉีกขาก และหลุดลอก
ซึ่งเมื่อพบลักษณะดังกล่าวจะได้เริ่มทำการรักษาได้ทันท่วงที
ผู้ป่วยต้องทำความเข้าใจว่าลักษณะดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อถึงแม้วันที่มาตรวจจะไม่พบ ซึ่งวันต่อๆ
ไป อาจจะเกิดการดึงรั้ง และฉีกขาดของจอประสาทตาได้
ดังนั้นผู้ป่วยควรระวังอาการซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะจอประสาทตาฉีกขาด
เมื่อมีอาการดังกล่าวควรรีบมาพบจักษุแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็ดต่อไป
…………………………………………