อาการตกขาวเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สตรีจะต้องมาพบแพทย์ เพราะอาจวิตกกังวลว่าจะเป็นโรคมะเร็งหรือไม่? ตกขาวหมายถึง สิ่งที่ไม่ใช่เลือดถูกขับออกมาทางช่องคลอด ฉะนั้นตกขาวจึงไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น อาจจะมีสีอื่นก็ได้ เช่น สีเหลือง สีเหลืองปนเขียว หรือสีน้ำตาล เป็นต้น และชนิดของตกขาวแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
- ตกขาวปกติเป็นตกขาวที่พบในภาวะปกติ ซึ่งไม่ต้องให้การรักษา แต่แพทย์ควรอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ มีความสบายใจซึ่งตกขาวนี้จะมีลักษณะเป็นน้ำเมือกใสเหนียวๆ หรือสีขาว ไม่มีอาการคัน ไม่มีกลิ่นเหม็น เกิดจากส่วนผสมของสิ่งซึ่งขับออกมาจากต่อมต่างๆ ของระบบสืบพันธุ์
– ต่อมบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก เช่น ต่อมไขมัน ต่อม Bartholin’ s gland , ต่อม Paraurethral gland
– ต่อมที่ปากมดลูก
– ต่อมที่เยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial gland)
– น้ำในช่องคลอด สร้างโดยเยื่อบุช่องคลอด
– สิ่งที่ขับจากท่อรังไข่
- ตกขาวผิดปกติหรือมีพยาธิสภาพ จะมีลักษณะของตกขาวที่มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ อาจจะมีอาการคัน ปวดแสบร้อนบริเวณปากช่องคลอด หรืออาจจะมีการเจ็บในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสาเหตุมีด้วยกันหลายสาเหตุ ได้แก่
2.1 การติดเชื้อ ที่พบเห็นได้บ่อย ได้แก่ เชื้อรา เชื้อพยาธิ Trichomonas เชื้อ Bacteria (Bacterial Vaginosis) ซึ่งจะมีลักษณะตกขาว และอาการดังนี้
– ตกขาวจากเชื้อรา จะพบบ่อยในผู้ป่วยภาวะต่างๆ เช่น การตั้งครรภ์ เป็นเบาหวาน คนอ้วน ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ผู้ใช้ยาปฏิชีวนะ รวมทั้งความอับชื้นจากกางเกงใน ผู้ป่วยจะมีอาการคันในช่องคลอด หรือคันบริเวณปากช่องคลอด ลักษณะตกขาวจะเป็นสีขาวเป็นก้อนคล้ายนมบูดติดอยู่ใน ผนังช่องคลอด
– ตกขาวจากเชื้อพยาธิ Trichomonas ผู้ป่วยจะมีอาการคันมากในช่องคลอด ลักษณะตกขาวจะเป็นสีเขียวปนเหลืองเป็นฟอง
– ตกขาวจากเชื้อ Bacteria (bacterial vaginoses) ผู้ป่วยจะมีตกขาวกลิ่นคาว เหมือนปลาเน่า ตกขาวส่วนใหญ่ที่ออกมาจะเป็นสีขาวขุ่น
– การติดเชื้อจากสาเหตุอื่น เช่น จากเชื้อหนองใน ตกขาวจะเป็นหนอง สีเหลืองจำนวนมาก เชื้อหนองในเทียม ซึ่งจะมีตกขาวสีเหลืองเช่นกันแต่จะมี จำนวนน้อยกว่าจากเชื้อหนองใน
2.2 ปากมดลูกอักเสบ ตกขาวอาจจะเป็นสีขาว หรือสีเหลืองปนขาวก็ได้
2.3 สิ่งแปลกปลอมตกค้างในช่องคลอด และทำให้เกิดการอักเสบตกขาวจะเป็น สีเทาซึ่งจะมีกลิ่นเหม็นมาก
2.4 เนื้องอกและมะเร็งปากมดลูก โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูกอาจจะมีตกขาว ปนเลือด หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้าเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะหลังๆจะมีตกขาวกลิ่นเหม็นมากเพราะมีการตายของเซลล์นั่นเอง
2.5 เนื้องอกและมะเร็งของช่องคลอด ซึ่งจะพบได้น้อย
การรักษา
ในการรักษาตกขาวแพทย์จะซักประวัติอาการของผู้ป่วย ตรวจภายใน และอาจจะตรวจตกขาวเพิ่มเติมทางกล้องจุลทรรศน์ หรือตรวจย้อมสีดูลักษณะเชื้อ และแพทย์จะให้การรักษาตามสาเหตุและอาการที่ตรวจพบ เช่น พบสาเหตุจากการติดเชื้อก็จะให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ รวมทั้งการใช้ยาสอดทาง ช่องคลอด ถ้าเป็นปากมดลูกอักเสบเรื้อรังก็จะรักษาโดยจี้ปากมดลูกด้วยไฟฟ้า หรือจี้ด้วยความเย็น (Cryosurgery ) ถ้าหากสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูกแพทย์ก็จะตัดชิ้นเนื้อที่ปากมดลูกส่งไปตรวจทางพยาธิเพื่อการวินิจฉัยที่แน่นอน และหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยแต่ละรายต่อไปครับ
———————————————–