โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา

 

อาการตกขาวเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สตรีจะต้องมาพบแพทย์ เพราะอาจวิตกกังวลว่าจะเป็นโรคมะเร็งหรือไม่? ตกขาวหมายถึง สิ่งที่ไม่ใช่เลือดถูกขับออกมาทางช่องคลอด ฉะนั้นตกขาวจึงไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นสีขาวเท่านั้น อาจจะมีสีอื่นก็ได้ เช่น สีเหลือง สีเหลืองปนเขียว  หรือสีน้ำตาล เป็นต้น และชนิดของตกขาวแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ

  1. ตกขาวปกติเป็นตกขาวที่พบในภาวะปกติ ซึ่งไม่ต้องให้การรักษา แต่แพทย์ควรอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ มีความสบายใจซึ่งตกขาวนี้จะมีลักษณะเป็นน้ำเมือกใสเหนียวๆ หรือสีขาว ไม่มีอาการคัน ไม่มีกลิ่นเหม็น เกิดจากส่วนผสมของสิ่งซึ่งขับออกมาจากต่อมต่างๆ ของระบบสืบพันธุ์

                – ต่อมบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก เช่น ต่อมไขมัน    ต่อม Bartholin’ s gland , ต่อม Paraurethral gland

                – ต่อมที่ปากมดลูก

                – ต่อมที่เยื่อบุโพรงมดลูก (endometrial gland)

                – น้ำในช่องคลอด สร้างโดยเยื่อบุช่องคลอด

                – สิ่งที่ขับจากท่อรังไข่

  1. ตกขาวผิดปกติหรือมีพยาธิสภาพ จะมีลักษณะของตกขาวที่มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ อาจจะมีอาการคัน ปวดแสบร้อนบริเวณปากช่องคลอด หรืออาจจะมีการเจ็บในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งสาเหตุมีด้วยกันหลายสาเหตุ ได้แก่

                2.1 การติดเชื้อ ที่พบเห็นได้บ่อย ได้แก่ เชื้อรา เชื้อพยาธิ Trichomonas    เชื้อ Bacteria (Bacterial Vaginosis) ซึ่งจะมีลักษณะตกขาว และอาการดังนี้

                             – ตกขาวจากเชื้อรา จะพบบ่อยในผู้ป่วยภาวะต่างๆ เช่น การตั้งครรภ์ เป็นเบาหวาน คนอ้วน ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ผู้ใช้ยาปฏิชีวนะ รวมทั้งความอับชื้นจากกางเกงใน ผู้ป่วยจะมีอาการคันในช่องคลอด หรือคันบริเวณปากช่องคลอด ลักษณะตกขาวจะเป็นสีขาวเป็นก้อนคล้ายนมบูดติดอยู่ใน ผนังช่องคลอด

                               – ตกขาวจากเชื้อพยาธิ Trichomonas ผู้ป่วยจะมีอาการคันมากในช่องคลอด  ลักษณะตกขาวจะเป็นสีเขียวปนเหลืองเป็นฟอง

                               – ตกขาวจากเชื้อ Bacteria (bacterial vaginoses) ผู้ป่วยจะมีตกขาวกลิ่นคาว เหมือนปลาเน่า ตกขาวส่วนใหญ่ที่ออกมาจะเป็นสีขาวขุ่น                                           

                               – การติดเชื้อจากสาเหตุอื่น เช่น จากเชื้อหนองใน ตกขาวจะเป็นหนอง สีเหลืองจำนวนมาก เชื้อหนองในเทียม ซึ่งจะมีตกขาวสีเหลืองเช่นกันแต่จะมี จำนวนน้อยกว่าจากเชื้อหนองใน

                2.2 ปากมดลูกอักเสบ ตกขาวอาจจะเป็นสีขาว หรือสีเหลืองปนขาวก็ได้

                2.3 สิ่งแปลกปลอมตกค้างในช่องคลอด และทำให้เกิดการอักเสบตกขาวจะเป็น สีเทาซึ่งจะมีกลิ่นเหม็นมาก

                2.4 เนื้องอกและมะเร็งปากมดลูก โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูกอาจจะมีตกขาว  ปนเลือด หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้าเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะหลังๆจะมีตกขาวกลิ่นเหม็นมากเพราะมีการตายของเซลล์นั่นเอง

                2.5 เนื้องอกและมะเร็งของช่องคลอด ซึ่งจะพบได้น้อย

 

การรักษา

                      ในการรักษาตกขาวแพทย์จะซักประวัติอาการของผู้ป่วย ตรวจภายใน และอาจจะตรวจตกขาวเพิ่มเติมทางกล้องจุลทรรศน์ หรือตรวจย้อมสีดูลักษณะเชื้อ และแพทย์จะให้การรักษาตามสาเหตุและอาการที่ตรวจพบ เช่น พบสาเหตุจากการติดเชื้อก็จะให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ รวมทั้งการใช้ยาสอดทาง ช่องคลอด ถ้าเป็นปากมดลูกอักเสบเรื้อรังก็จะรักษาโดยจี้ปากมดลูกด้วยไฟฟ้า หรือจี้ด้วยความเย็น (Cryosurgery ) ถ้าหากสงสัยว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูกแพทย์ก็จะตัดชิ้นเนื้อที่ปากมดลูกส่งไปตรวจทางพยาธิเพื่อการวินิจฉัยที่แน่นอน และหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยแต่ละรายต่อไปครับ

 

 ———————————————–